สหรัฐฯอ้าง ซีเรียเตรียมใช้อาวุธเคมีอีกครั้ง

ทางการสหรัฐฯ อ้างว่า รัฐบาลซีเรียมีแผนจะโจมตีด้วยอาวุธเคมีอีกครั้ง ขณะที่ซีเรียปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ดูเหมือนทางการซีเรียกำลังเตรียมพร้อมโจมตีด้วยอาวุธเคมีอีกครั้ง และได้ฝากคำเตือนไปยังประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ของซีเรียว่า หากมีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีเกิดขึ้น กองทัพและผู้นำซีเรียจะต้องชดใช้อย่างสาสม

ทำเนียบขาวระบุเพิ่มเติมว่า การเตรียมตัวโจมตีครั้งใหม่ของซีเรีย มีความคล้ายคลึงกับการเตรียมตัวก่อนเกิดเหตุโจมตีด้วยก๊าซพิษในจังหวัดอิดลิบ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในการครอบครองของกลุ่มกบฏ เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน และส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งให้ยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศเชย์รัตของซีเรีย

ด้านรัฐบาลซีเรียออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ว่า ไม่ได้เตรียมการโจมตีด้วยอาวุธเคมีครั้งใหม่ และยืนยันว่าไม่เคยใช้อาวุธเคมีมาก่อน โดยนายอาลี ไฮดาร์ รัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องความปรองดองแห่งชาติซีเรีย ระบุว่า แถลงการณ์ของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นลางบอกเหตุว่าจะเกิดสงครามทางการทูตเพื่อตอบโต้ซีเรีย ในที่ประชุมสหประชาชาติ

การโจมตีซีเรียของสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายน ส่งผลให้เกิดการกระทบกระทั่งขึ้นระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับรัสเซีย ซึ่งส่งที่ปรึกษาไปยังซีเรีย เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่นายอัสซาด

ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุว่า การขู่ผู้นำที่ถูกกฎหมายของซีเรียเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมกับวิจารณ์การที่สหรัฐฯ ใช้คำว่า "โจมตีด้วยอาวุธเคมีอีกครั้ง" เนื่องจากไม่เคยมีการตรวจสอบอย่างอิสระเกี่ยวกับเหตุโจมตีเมื่อเดือนเมษายน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เปิดเผยว่า นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กับนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้หารือกันทางโทรศัพท์เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับความจำเป็นในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย รวมถึงการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ และการยับยั้งการใช้อาวุธเคมี ซึ่งนายลาฟรอฟ ได้เตือนให้รัฐบาลสหรัฐฯ หยุดการกระทำที่เป็นการยั่วยุต่อกองกำลังของรัฐบาลซีเรีย ที่กำลังสู้รบกับกลุ่มก่อการร้าย