เริ่มเล่นภายใน วินาที
รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุส่งเรื่องทุจริตการเบิกจ่ายเงินค่าล่วงเวลาของพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยให้ ป.ป.ช.ชี้่มูลความผิด หลังพบว่ามีการเบิกจ่ายโดยไม่มีการปฏิบัติงานจริง ปีละ 300-400 ล้านบาท ซึ่งรวมเเล้วตอนนี้เสียหายไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท
พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีการดำเนินคดีกับพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมกันสนับสนุนกันทุจริตเบิกจ่ายเงินค่าล่วงเวลาของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ว่าได้ส่งสำนวนการสอบสวนจำนวนกว่า 4 แสนแผ่น ให้แก่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หลังพบว่ามีการกระทำผิดจริง โดยมีผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการกอง 9 คน ผู้อำนวยการสำนัก 1 คน และผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังอีก 1 คน
ซึ่ง ดีเอสไอ ตรวจสอบก็พบว่าเป็นการเบิกจ่ายเงินล่วงเวลาไม่เป็นไปตามกฎหมาย ถือเป็นการทุจริตงบประมาณแผ่นดิน จนส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ มูลค่าปีละ 300-400 ล้านบาท สำหรับคดีนี้ ตัวแทนการท่าเรือแห่งประเทศไทยมาร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตดังกล่าว และคณะกรรมการคดีพิเศษมีความเห็นรับเป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2557
โดยการตรวจสอบย้อนหลังจากปี 2555 พบมีการทุจริตเบิกจ่ายเงินล่วงเวลา แต่ไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่จริง ของเจ้าหน้าที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยเกือบทุกแผนก เฉลี่ยแล้วมีความเสียหายถึงปีละ 300 ถึง 400 ล้านบาท รวมความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงรู้เห็นเป็นใจ นอกจากนี้ยังมีการฟ้องร้องเรียกเงินเพิ่มชดเชยจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยเพิ่มอีก