เริ่มเล่นภายใน วินาที
ตำรวจควบคุมตัวพ่อเลี้ยงและแม่ทำแผนฯ คดีฆ่าลูกสาวถ่วงน้ำ สารภาพทุบตีนานเกือบ 1 เดือน ขณะที่พ่อเลี้ยงปฏิเสธไม่ได้ข่มขืน ด้านตำรวจเตรียมฝากขัง พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ควบคุมตัว นายวจะรัน ทัดสวรรค์ พ่อเลี้ยง และ น.ส.สุภาพร นนทรา แม่แท้ๆ ของน้องรุ้ง เด็กหญิงที่ถูกฆ่าถ่วงน้ำคลองสำโรง จ.สมุทรปราการ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ
จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.สุภาพร ให้การรับสารภาพ ว่าได้ทุบตีลูกสาวมานานกว่าครึ่งเดือน เพราะเด็กดื้อและชอบโกหก ครั้งสุดท้าย ได้ใช้ไม้ไผ่ตีเข้าไปที่หัวและตามร่างกาย จนลูกสาวมีอาการป่วยหน้าบวมจนกินข้าวไม่ได้ ต่อมาพบว่า ลูกสาวเสียชีวิต จึงได้นำศพมัดใส่กระสอบข้าวสาร และเอาก้อนคอนกรีตบริเวณท่าน้ำใส่กระสอบเพื่อถ่วงน้ำหนัก ก่อนโยนลงคลองสำโรงในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของ วันเสาร์ที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ส่วน นายวจะรัน พ่อเลี้ยง ให้การรับสารภาพเพียง ทุบตีลูกเลี้ยงบ้างเป็นบางครั้ง แต่ปฏิเสธไม่ได้กระทำชำเราเด็กหญิง ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันผลอีกครั้ง เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ และเตรียมนำส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ
ยายน้องรุ้ง เตรียมรับศพหลานสาวมาบำเพ็ญกุศล ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเพื่อนบ้านจะรวบรวมเงินเป็นค่าเดินทางไปรับศพเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ที่บ้านพัก ในหมู่บ้านท่าวารี ตำบลแสนสุข อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของตาและยายของ น้องรุ้ง เด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ถูกพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ ทำร้ายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำศพไปทิ้งที่คลองสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ทุกคนอยู่ในอาการเสียใจ หลังทราบข่าวหลานสาวถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
ยายของ น้องรุ้ง บอกว่า หลานสาวเป็นคนที่เงียบและค่อนข้างเก็บตัว โดยไม่คิดว่า การที่แม่ของหลานมารับไปอยู่ด้วยจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอหลาน
ยายของ น้องรุ้ง ยังบอกอีกว่า แม่ของหลานสาวเลิกกับสามีตั้งแต่คลอดลูก โดยพ่อได้นำตัวหลานสาวไปเลี้ยงตั้งแต่เด็ก จนกระทั่ง เมื่อปีที่แล้วพ่อของหลานสาวเสียชีวิต ญาติฝ่ายพ่อจึงส่งตัวหลานสาวมาอยู่ด้วย ซึ่งหลานสาวแม้จะเป็นเด็กที่เงียบขรึมและเก็บตัว แต่ก็ช่วยเหลืองานตาและยาย เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน
ขณะที่ นายพงษ์เทพ ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าลาดวารีวิทยา ซึ่งเด็กหญิงเรียนอยู่บอกว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวเพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เมื่อปีที่ผ่านมา หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจและเสียใจกับครอบครัว โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังชุมชนเพื่อรวมรวมเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับศพ และช่วยเหลือเรื่องงานศพ เนื่องจากครอบครัวของเด็กหญิงที่เสียชีวิตมีฐานะยากจน