เริ่มเล่นภายใน วินาที
คดีเเรกในประวัติศาสตร์ไทย ล่าสุดมหาวิทยาลัยมหิดลได้สั่งพักการเรียนเเล้วเป็นครั้งที่3 ด้านฝาแฝดเเละครอบครัวรวมถึงทางมหาวิทยาลัย เผย ป่วยทางจิตจริงต้องกินยาแต่เห็นว่ายังใช้ชีวิตและเรียนได้ปกติ จึงไม่น่าจะถึงขั้นไล่ออก แต่ต้องรอทางตำรวจตัดสินอีกทีถึงจะมีผลหมดสิทธิ์การเป็นหมอ
ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงผลสรุปกรณีนักศึกษาแพทย์ที่ถูกกล่าวหาทำร้ายสุนัขและเรียกร้องเงินประกัน ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางจริยธรรมกับนักศึกษาดังกล่าว หากประเมินแล้วมีผลตัดสินว่ามีความผิดทางจริยธรรมจริง ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจะดำเนินการส่งเรื่องไปยังมหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อดำเนินการต่อไป ตามเกณฑ์ความผิดด้านจริยธรรม
ขณะเดียวกัน จะเฝ้าติดตามการรักษาอาการป่วยด้านจิตใจอย่างใกล้ชิด แต่หากประเมินแล้วว่า มีความรุนแรงขัดต่อการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ ก็จะเสนอมหาวิทยาลัยมหิดลพิจารณาให้พ้นสภาพนักศึกษา โดยได้สั่งพักการเรียนในทันที /ทั้งนี้หากความผิดทางอาญาในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ออกมาว่าผิด ก็จะเสนอมหาวิทยาลัยมหิดลให้พิจารณาให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา
ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ บอกว่า นักศึกษาคนดังกล่าว รู้สึกเสียใจ และกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ต้องการให้วิชาชีพแพทย์ ต้องเสียศรัทธาจากประชาชน แต่หากผลการตัดสินออกมาเช่นไร ก็พร้อมยอมรับโดยไม่ขออุทธรณ์ รวมถึงครอบครัวของนักศึกษาด้วย
สำหรับภาวะทางด้านจิตใจนั้น ขณะนี้พบว่า นักศึกษาคนดังกล่าวเริ่มมีภาวะย้ำคิดย้ำทำ เมื่อช่วงปี 3 แต่สามารถเรียนต่อได้ ก่อนจะเป็นมากขึ้นในปี 2558 ที่เรียนในชั้นปีที่ 6 และการสั่งพักการเรียนในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยยืนยันว่าอาการดังกล่าวไม่ใช่โรคจิตเภทและไม่มีผลกระทบกับการประกอบวิชาชีพ
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยืนยันด้วยว่า กระบวนการผลิตแพทย์จะต้องได้มาตรฐานและการให้โอกาสเขาได้รักษาอาการป่วย ไม่ใช่การช่วยเหลือกัน เพราะการเรียนในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจะมีจิตแพทย์คอยประเมินสภาพจิตใจของนักศึกษาตลอดอยู่ หากมีปัญหาต่อการเป็นแพทย์ เช่น ป่วยเป็นจิตเภท หรือคดีเป็นที่สิ้นสุด ถูกจำคุก ก็จะพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา